วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Saint-Valentin



Le jour de la Saint-Valentin, le 14 février, est considéré dans de nombreux pays comme la fête des amoureux et de l'amitié. Les couples en profitent pour échanger des mots doux et des cadeaux comme preuves d’amour ainsi que des roses rouges qui sont l’emblème de la passion.
À l’origine fête de l’
Église catholique, le jour de la Saint-Valentin n’aurait pas été associé avec l’amour romantique avant le haut Moyen Âge mais avec l'amour physique. La fête est maintenant associée plus étroitement à l’échange mutuel de « billets doux » ou de valentins illustrés de symboles tels qu’un cœur ou un Cupidon ailé.


À l’envoi de billets au XIXe siècle a succédé l’échange de cartes de vœux. On estime qu’environ un milliard de ces cartes sont expédiées chaque année à l’occasion de la Saint Valentin,[réf. souhaitée] chiffre battu seulement par le nombre de cartes échangées lors des fêtes de Noël. On estime aussi que 85 % de ces cartes sont achetées par des femmes.



Historique du jour de la Saint-Valentin


L’association du milieu du mois de février avec l’amour et la fertilité date de l’antiquité. Dans le calendrier de l’Athènes antique, la période de mi-janvier à mi-février était le mois de Gamélion, consacré au mariage sacré de Zeus et de Héra.
Dans la
Rome antique, le jour du 15 février était nommé les lupercales ou festival de Lupercus, le dieu de la fertilité, que l’on représente vêtu de peaux de chèvre. Les prêtres de Lupercus sacrifiaient des chèvres au dieu et, après avoir bu du vin, ils couraient dans les rues de Rome à moitié nus et touchaient les passants en tenant des morceaux de peau de chèvre à la main. Les jeunes femmes s’approchaient volontiers, car être touchée ainsi était censé rendre fertile et faciliter l’accouchement. Cette solennité païenne honorait Junon, déesse romaine des femmes et du mariage, ainsi que Pan, le dieu de la nature.
Au moins trois saints différents sont nommés Valentin, tous trois martyrs
[1]. Leur fête a été fixée le 14 février par décret du pape Gelase Ier, aux alentours de 498. C’est à cette date qu’ils sont mentionnés dans les premiers martyrologes[2] :
Valentin de Rome, un prêtre qui a souffert le martyre à Rome dans la seconde moitié du IIIe siècle et qui a été enterré sur la Via Flaminia.
Valentin de Terni, un évêque d’Interamma (le Terni moderne), qui a également souffert le martyre dans la deuxième moitié du IIIe siècle et qui a également été enterré sur la Via Flaminia.
Un martyr en Afrique du Nord, nous savons peu sur lui.
Le rapprochement entre la Saint-Valentin et l’amour courtois n’est mentionné dans aucune histoire ancienne et est considéré par des historiens comme une légende. Il existe une légende selon laquelle la fête de la Saint-Valentin a été créée pour contrecarrer la pratique des lupercales par les jeunes amoureux qui dessinaient leurs noms sur une urne, mais cette pratique n’est citée dans aucune source écrite de l’époque.
Le jour de la Saint-Valentin a longtemps été célébré comme étant la fête des célibataires et non des couples. Le jour de la fête, les jeunes filles célibataires se dispersaient aux alentours de leur village et se cachaient en attendant que les jeunes garçons célibataires les trouvent (définition des lupercales)
[réf. souhaitée]. À l’issue de ce cache-cache géant, les couples formés étaient amenés à se marier dans l’année. Ceci permettait de développer la démographie et stimuler l’expansion des villages.Cette pratique laissait libre cours à beaucoup de tricheries de la part de couples officieux ainsi que des hommes qui visaient une jeune fille en particulier et notamment « la plus belle du village », très courtisée.

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552


ความหวังใหม่ วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยลดผู้ป่วยมะเร็ง1 ใน 5

หากว่านักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเซาธ์ ออสเตรเลีย ทำการวิจัยได้สำเร็จจะสามารถช่วยป้องกันมนุษย์ จากโรคมะเร็งร้ายไว้ได้มาก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จอห์น เฮย์บอลล์ กับคณะ กำลังศึกษาค้นคว้า สร้างวัคซีนเพื่อป้องกันโรคมะเร็งพวกที่เกิดจากไวรัส อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบชนิด บี และโรคจากเชื้อไวรัสหูด ไวรัสนี้เป็นตัวการก่อให้ เกิดโรคมะเร็งถึงร้อยละ 20 "ถ้าหากเราสามารถป้องกันไม่ให้ติดเชื้อนี้ได้ ก็จะมีทางที่จะลดจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งลงได้ถึง 1 ใน 5 นับเป็นความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว"

หมอจอห์นกล่าวต่อไปว่า "เราหวังว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีหลัก เพื่อก่อรูปของวัคซีนซึ่งไม่แต่เพียงเพื่อป้องกันเท่านั้น หากยังรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ อันเกิดจากไวรัส หลังจากที่มันได้ยึดที่มั่นอยู่ในตัวคนได้ แล้วด้วย"

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552

เด็ดกว่าพระจันทร์ยิ้มอีก
นกยิ้ม


วันครู
ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน; ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ

ความเป็นมา

วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง” จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551

นอนน้อยทำร้ายหลอดเลือด เสี่ยงเป็นโรคหัวใจร้ายแรง




หมอเตือนภัยของการประหยัดการนอนว่า เป็นการทำร้ายหลอดเลือด ทำให้แข็งกระด้าง อันอาจทำให้เกิดเป็นโรคหัวใจขึ้นได้

วารสารวิชาการแพทยสมาคมอเมริกันรายงาน ผลการศึกษาร่างกายคนอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ 495 คน พบว่า ผู้ที่นอนน้อยต่ำกว่าวันละ 5 ชม. ถูกพบว่าเป็นผู้ที่มีหลอดเลือดแข็งกระด้างมากถึง 1 ใน 3 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวบอกว่า การนอนให้พอเป็นของสำคัญของการมีหัวใจแข็งแรงดี

คณะแพทย์ได้พบหลอดเลือดลักษณะดังกล่าวในการศึกษาด้วยการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ประเมินการจับเกาะแคลเซียมตามหลอดเลือด ตรวจช่วงระยะเวลาทุก 5 ปี พร้อมกับขอให้กรอกแบบ สอบถามเกี่ยวกับนิสัยการนอนและให้ทำบันทึกการนอนประจำวันไว้ด้วย


ในการตรวจหนแรกเมื่อเริ่มการศึกษายังไม่ พบว่าหลอดเลือดคนใดแข็งเลย แต่เมื่อตรวจหน ที่ 2 เมื่อ 5 ปีต่อมา ได้พบผู้มีแคลเซียมจับเกาะอยู่ถึง 61 ราย และดูเหมือนว่ามันเกี่ยวพันกับการนอนน้อยอยู่ด้วย เพราะได้พบว่า รายที่นอนคืนละไม่ต่ำกว่า 7 ชม.หลอดเลือดจะมีแคลเซียมเกาะน้อยกว่าเพื่อน

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เราทำงานหนักเพื่อ เพื่ออะไร ?


แด่ทุกท่านที่กำลังทำงานหนัก เพื่ออะไรบางอย่างในชีวิต ข้อคิดและข้อปฎิบัติสำหรับผู้ต้องการเพิ่ม EQ ของตัวเอง

หัดคิดแต่ด้านบวก. . . แล้วจะรู้ว่ามีแต่สิ่งที่เป็นไปได้
หัดฝัน. . . แล้วจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่
หัดพูดแต่ด้านบวก. . . แล้วจะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา
หัดยิ้ม. . . แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก
หัดฟาดฟันกับอุปสรรค. . . แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง
ลองทน. . . แล้วจะรู้ว่าเรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร
ลองออกกำลังกายทุกวัน. . . แล้วจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง
ลองคิดเอาชนะ. . . แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะ ตัวเองได้ไม่ยาก
ลองคิดให้ใหญ่. . . แล้วจะรู้ว่าเรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ
นักพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่งได้เริ่มหยุดการสัมนาของเขาโดยการหยิบแบงค์ 1,000 ขึ้นมา ในห้องที่มีผู้เข้าร่วม 200 ท่าน แล้วเขาก็พูดว่า "ใครอยากได้แบงค์ 1,000 นี้บ้าง?" มือได้ถูกยกขึ้นเป็นจำนวนมาก และเขาก็พูดต่อว่า "ฉันจะให้เงินแบงค์1,000 นี้แก่หนึ่งในพวกท่านแต่ครั้งแรกนี้ฉันจะทำอย่างนี้" เขาเริ่มที่จะขยำๆเงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า "ใครจะยังต้องการมันอีก" ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก "ดี" เขาตอบ
"แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ" และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มที่เหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก "ตอนนี้ใครยังต้องการมันอีก" ก็ยังคงมีคนยกมืออีก
พื่อนๆ คุณได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่าไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน คุณก็ยังต้องการมันอยู่ เพราะว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันก็ยังคงมีค่า1,000 บาทอยู่นั่นเอง เหมือนกับหลายๆ ครั้งในชีวิตของเรา ที่ถูกทิ้ง ถูกเหยียบย่ำ และถูกทำให้สกปรก โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมันและสภาพแวดล้อมที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้นหรืออะไรที่จะเกิดขึ้น คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ คุณเป็นคนพิเศษ อย่าลืมมันตลอดไป!
"อย่านำความผิดหวังของเมื่อวานมาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้"

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551




กินอะไร..อาจทำให้ง่วงได้



รู้ไหม ว่าอาหารที่พวกเราทานเข้าไป อาจจะทำให้ร่างกายเกิดอาการง่วงนอนได้ แถมอาหารเหล่านี้ยังเป็นอาหารจานโปรดของใครต่อใครหลายๆ คนเลย


กาแฟ เคยได้ยินแต่กาแฟช่วยให้ไม่ง่วง แต่..ถ้าเราดื่มกาแฟในขณะที่กระเพาะอาหารยังว่างอยู่จะทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ เพราะหลังจากดื่มกาแฟไป 30 นาที คาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะเข้าไปในกระแสเลือดและถูกส่งต่อไปที่สมอง โดยขณะนั้นเองออกซิเจนที่ถูกลำเลียงไปเลี้ยงสมองก็จะถูกสกัดกั้นเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการง่วงนอนตามมา


กล้วย ภายในกล้วยจะมีฮอร์โมนเซโรโทนินและนอร์เอพิเนฟริน ที่จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ดังนั้นถ้าเราทานกล้วยมากจนเกินไปก็จะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกายได้


ช็อกโกแลต สาร Phenylethylamine ในช็อกโกแลตจะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการง่วงนอนได้


ครัวซองต์ จะมีปริมาณแป้งขัดขาวและไขมันมากซึ่งจะต้องใช้พลังงานในการย่อย ดังนั้นถ้าเราทานครัวซองต์ 2-3 ชิ้น ร่างกายก็ต้องดึงเลือดจากสมองมาที่กระเพาะอาหารเป็นจำนวนมาก ทำให้เลือดที่สมองมีไม่เพียงพอจึงทำให้เกิดอาการง่วงนอน


ขนมปังขาวและข้าวขาว เพราะมีสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน ซึ่งทำให้ตับอ่อนหลั่งสารอินซูลินออกมามาก ทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงและทำให้ง่วงนอน


ของหวาน เช่น เค้ก คุ้กกี้ จะทำให้วิตามินบีออกจากร่างกายเราเร็วขึ้นส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการง่วงนอน