รายชื่อสมาชิกสหภาพยุโรป
1 เบลเยียม 16 ไซปรัส
2 ฝรั่งเศส 17 สาธารณรัฐเช็ค
3 เยอรมนี 18 เอสโตเนีย
4 เนเธอร์แลนด์ 19 ฮังการี
5 เดนมาร์ก 20 ลัตเวีย
6 อิตาลี 21 ลิทัวเนีย
7 ลักเซมเบิร์ก 22 มอลตา
8 กรีซ 23 โปแลนด์
9 ไอร์แลนด์ 24 สโลวาเกีย
10 สหราชอาณาจักร 25 สโลวีเนีย
11 โปรตุเกส 26 บัลแกเรีย
12 สเปน 27 โรมาเนีย
13 ออสเตรีย
14 ฟินแลนด์
15 สวีเดน
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2551
วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2551
คำสอนแต่โบราณ เชยแต่ดี
ตอนเด็ก ๆ เรามักชอบวิ่งเล่นไปมาสนุกสนาน ผู้ใหญ่เตือนอะไรก็ไม่ค่อยสนใจ แต่พอโตขึ้นมาถึงจะมานึกกันได้ ว่ารู้อย่างงี้เชื่อพ่อ / แม่ก็ดี
เวลาเดินอย่าลงส้นเท้า หรืออย่าเดินเสียงดัง ตอนเด็ก ๆ เราเป็นประจำวิ่งเล่นตึง ๆ ทั่วทั้งบ้านแล้วก็จะโดนดุอยู่บ่อย ๆ พอโตขึ้นมาเวลาเจอคนเดินลงส้นเท้าผ่านไปถึงได้รู้ว่ามันดูไม่ดีจริง ๆ นอกจากตัวเราเองดูไม่ดีแล้วยังไปรบกวนคนอื่นอีกด้วย
จะไปไหนมาไหนต้องรู้จักไปลามาไหว้ เจอผู้ใหญ่ก็ต้องยกมือไหว้กล่าวคำทักทายก่อน พอจะกลับก็อย่าลืมยกมือไหว้พร้อมกล่าวลาด้วย เพราะว่าผู้ใหญ่เห็นท่านจะได้เอ็นดูว่าเรามีสัมมาคารวะ ไม่ใช่จู่ ๆ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป อย่างนี้เขาถือว่าไม่ให้เกียรติเจ้าบ้าน / เจ้าภาพกัน
รู้จักพูดขอบคุณกับขอโทษให้ติดปาก ถือเป็นการแสดงความมีน้ำใจเล็ก ๆ ต่อกัน บางครั้งการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น คุณหิ้วของพะรุงพะรังขึ้นบันไดแคบ ๆ แล้วคนที่กำลังลงมาหลบทางให้ คุณก็ควรกล่าวขอบคุณเขา แม้ว่าบางทีอาจจะเป็นเรื่องที่เขาสมควรทำอยู่แล้วก็เถอะ แต่การทำแบบนี้ก็ทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นได้ไม่ใช่หรอ
อย่าหยิบของคนอื่นโดยไม่ได้อนุญาต ตอนเด็ก ๆ แม่จะสอนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นของพี่หรือของน้องก็ไม่ควรทำทั้งนั้น เพราะเจ้าของอาจจะไม่พอใจ หรือต่อให้เขาไม่ว่า แต่อีกหน่อยมันจะติดเป็นนิสัย เมื่อโตขึ้นถึงได้รู้ว่าคำสอนนี้มันก็ดีจริง ๆ นั่นแหล่ะ เพราะทำให้เรารู้จักเคารพสิทธิของผู้อื่น เพราะถึงแม้เขาไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาก็อาจจะไม่พอใจอยู่เล็ก ๆ ก็ได้
ว่าไง จำกันได้มั้ยค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านสอนเรามาอย่างไรกันบ้าง
วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551
โรคของนักช้อป
การถือกระเป๋าหรือหิ้วถุงช้อปปิ้งกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้หญิงไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวนักช้อปและแม่บ้าน การซื้อแต่ละครั้งก็จำนวนถุงน้อยบ้างมากบ้างตามภาวะโอกาส แต่ผู้หญิงมักจะลืมตัวซื้อของ หิ้วพะรุงพะรังเต็มมืออย่างในช่วงลดราคากระหน่ำซัมเมอร์เซล ซึ่งกระเป๋าถือและถุงช้อปปิ้งแสนหนักนี้ที่หิ้วกันแบบลืมตัวนี้เองทำให้เกิดโรคของนักช้อปขึ้น
โรคของนักช้อปมักเกิดกับหลัง ไหล่ ข้อศอก ข้อมือ มือ หรือนิ้วมือ เป็นต้น เนื่องมาจากต้องแบกรับน้ำหนักมากเกินไปเป็นเวลานานประจำ เป็นสาเหตุของอาการมากาย เช่น
• ปวดกล้ามเนื้อ (muscle pain, myofascial pain) เพราะสะพายกระเป๋าหรือถุงหนักและหลายใบ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนัก เกิดการหดเกร็งตัว มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณสะบักทั้งสองข้าง ปวดไหล่ ปวดหลัง
• ปวดเข่า ปวดหลัง เกิดจากการใส่รองเท้าไม่เหมาะสมเวลาเดินช้อปปิ้ง เช่น รองเท้าส้นสูงมากๆ เดินนาน ๆ อาจทำให้เส้นประสาทบริเวณข้อเท้าถูกกด (anterior tarsal tunnel) ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วโป้งเท้าได้ เป็นต้น
• เส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชอบคล้องกระเป๋าถือหรือถุงหิ้วที่แขนหรือข้อมือ (สไตล์ท่าทางแบบแม่บ้านญี่ปุ่น) ทำให้ชาที่บริเวณมือหรือปวดข้อมือมาก บางคนชาที่ปลายนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลางและปลายนิ้วอีกครึ่งของนิ้วนาง หรือบางคนอาจปวดร้าวเหมือนถูกไฟช็อตวิ่งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นมากอาจทำให้มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออุ้งมือได้
• เอ็นอักเสบ เป็นที่เอ็นข้อหัวไหล่อักเสบ (Rotator cuff tendinitis) เอ็นบริเวณข้อศอกอักเสบ ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วโป่งอักเสบ (Dequervian tenosynovitis) และถ้าหิ้วถุงหนักมากๆ อาจทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดพังผืดรัดบริเวณข้อนิ้ว เกิดภาวะนิ้วล็อกตามมาได้ เรียกภาษาไทยว่า ภาวะนิ้วล็อกไกปืน (Trigger finger)
โรคของนักช้อปมักเกิดกับหลัง ไหล่ ข้อศอก ข้อมือ มือ หรือนิ้วมือ เป็นต้น เนื่องมาจากต้องแบกรับน้ำหนักมากเกินไปเป็นเวลานานประจำ เป็นสาเหตุของอาการมากาย เช่น
• ปวดกล้ามเนื้อ (muscle pain, myofascial pain) เพราะสะพายกระเป๋าหรือถุงหนักและหลายใบ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนัก เกิดการหดเกร็งตัว มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณสะบักทั้งสองข้าง ปวดไหล่ ปวดหลัง
• ปวดเข่า ปวดหลัง เกิดจากการใส่รองเท้าไม่เหมาะสมเวลาเดินช้อปปิ้ง เช่น รองเท้าส้นสูงมากๆ เดินนาน ๆ อาจทำให้เส้นประสาทบริเวณข้อเท้าถูกกด (anterior tarsal tunnel) ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วโป้งเท้าได้ เป็นต้น
• เส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชอบคล้องกระเป๋าถือหรือถุงหิ้วที่แขนหรือข้อมือ (สไตล์ท่าทางแบบแม่บ้านญี่ปุ่น) ทำให้ชาที่บริเวณมือหรือปวดข้อมือมาก บางคนชาที่ปลายนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลางและปลายนิ้วอีกครึ่งของนิ้วนาง หรือบางคนอาจปวดร้าวเหมือนถูกไฟช็อตวิ่งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นมากอาจทำให้มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออุ้งมือได้
• เอ็นอักเสบ เป็นที่เอ็นข้อหัวไหล่อักเสบ (Rotator cuff tendinitis) เอ็นบริเวณข้อศอกอักเสบ ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วโป่งอักเสบ (Dequervian tenosynovitis) และถ้าหิ้วถุงหนักมากๆ อาจทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดพังผืดรัดบริเวณข้อนิ้ว เกิดภาวะนิ้วล็อกตามมาได้ เรียกภาษาไทยว่า ภาวะนิ้วล็อกไกปืน (Trigger finger)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)